ประวัติโรงเรียนบ้านพุปลาไหล
โรงเรียนบ้านพุปลาไหล ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ โดยนายคลี่ วัลลิภากร นายอำเภอปักธงชัยเป็นประธาน พร้อมด้วยศึกษาธิการอำเภอ กำนันมาร่วมเป็นเกียรติในการเปิดป้ายอาคารเรียน การเปิดเรียนครั้งแรกได้แยกนักเรียนมาจากโรงเรียนบ้านปลายดาบ โดยอาศัยศาลาวัดทำการเปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงประถมศึกษาปีที่ ๔ มีครู ๒ คน คือ นายโทน ตริตรอง รักษาการครูใหญ่ และนายลิ อรชุม
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ โรงเรียนได้รับเงินอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทจึงได้ปลูกสร้างอาคารเรียนแบบ ป. ๑ ซ . ใต้ถุนเตี้ย ๓ ห้องเรียน ปลูกสร้างแล้วเสร็จและทำการเปิดทำการสอนเมื่อ
วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ โรงเรียนบ้านพุปลาไหลมีพื้นที่ ๒๓ ไร่ ๑ งาน ๓๒ ตารางวา
พ.ศ. ๒๕๒๓ ทางราชการให้งบประมาณเพิ่มอีก ๑ ห้องเรียนและเปิดทำการสอนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยมี นายมนัส สงตะคุ ได้ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์และสถานที่ มี นายผัน ทิพจักรพงศ์ เป็นครูใหญ่ พ.ศ ๒๕๒๔ ได้รับเงินอุดหนุนโครงการสร้างงานในชนบทสร้างถังเก็บน้ำฝนและได้รับเงินงบประมาณ สร้างโรงฝึกงาน ๑ หลัง
พ.ศ. ๒๕๒๕ นายผัน ทิพยจักรพงศ์ ได้ลาออกจากราชการ ทางราชการจึงแต่งตั้งให้นายศิโรโรตม์ ธีรศาสตร์ มาเป็นครูใหญ่แทนและดำรงตำแหน่งถึงปี พ.ศ๒๕๒๘ จึงย้ายไปเป็นศึกษานิเทศก์ อำเภอปักธงชัย
พ.ศ. ๒๕๒๙ นายบุญส่ง วิทยกิตติกุล มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ในโรงเรียนนี้และทางโรงเรียนได้ติดต่อท่านเาคณะจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอรับพระพุทธรูปหน้าตัก ๑๖ นิ้วและได้นำมาประดิษฐานไว้ที่โรงเรียนบ้านพุปลาไหลเพื่อให้คณะครูและนักเรียนกราบไหว้สักการบูชาต่อไป เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๙
พ.ศ. ๒๕๓๑ ทางโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๓๑ ได้ต่อเติมอาคารเรียนอีก ๒ ห้องเรียน เป็นเงิน ๒๘๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ ๒๕๓๒ ทางโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๓๒ ได้ส้วม ๒ ที่ เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท
๑๖ พ.ค. ๒๕๓๘ เปิดสอนชั้นอนุบาล ๑ อีก ๑ ห้องเรียน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับอนุมัติให้รื้อถอนอาคารเรียนแบบ ป. ๑ ซ. (ใต้ถุนเตี้ย) ขนาด ๓ ห้องเรียน จำนวน ๑ หลัง ตามหนังสือ สปจ. ที่ ศธ. ๑๔๒๗/๑๒๗๙๘ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๘ และสปอ. ปักธงชัยที่ ศธ.๑๔๒๗.๑๒/๒๐๑๓ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๓๘
๕ ธันวาคม ๒๕๓๙ นักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีบพิตรพิมุขมหาเมฆ ได้ออกค่ายอาสาพัฒนาที่โรงเรียนได้ต่อเติมอาคารโรงฝึกงานของโรงเรียนเป็นอาคารเรียนชั้นอนุบาลสิ้นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท
๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๐ นายเสถียร จันทร์สม ได้มาทำการสอนโดยตัดโอนมาจากโรงเรียนบ้านลำนางแก้ว ตาม
คำสั่ง สปจ. ที่ ๙๗๘/๔๐ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๐ ตำแหน่ง อาจารย์ ๒ ระดับ ๗
๒๒ พฤษภาคม ๒๕๔๑ นายมงคล ภักดีนอก ได้มาทำการสอนโดยตัดโอนมาจาก โรงเรียนบ้านเขาพญาปราบ ตามคำสั่ง สปจ. ที่ ๒๕๐/๔๑ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๑ ตำแหน่งอาจารย์ ๒ ระดับ ๗
๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๑ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ สปช.๑๐๒ / ๒๖ จำนวน ๔ ห้องเรียน ราคา ๑,๐๘๘,๖๐๐ บาท
พฤษภาคม ๒๕๔๒ ได้รับงบประมาณก่อสร้างถังเก็บน้ำฝนซืเมนต์ ฝ. ๓๐๑ พิเศษ จำนวน ๑ ที่ ๔ ลูกจากงบ
มิยาซาวา เป็นเงิน ๘๑,๐๐๐ บาท
๗ มิถุนายน ๒๕๔๓ ได้รับงบประมาณซ่อมแซมอาคารเรียนหมวดค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างได้จัดซ่อม
สังกะสีอาคารเรียนแบบ ป. ๑ ซ. ๓ ห้องเรียน งบประมาณ ๔๖,๒๐๐ บาท และได้รับจัดสรรโต๊ะอ่านหนังสือพร้อมเก้าอี้ขนาด ๖ ที่นั่ง ๒,๔๒๐ บาท
๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๓ ได้จัดสร้างส้วม ๑ หลัง ๓ ที่โดยไม่ใช้งบประมาณจากทางราชการ สิ้นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๓ นายสุวัฒน์ งามตะคุ ได้มาทำงานในตำแหน่งนักการภารโรงชั่วคราวรายปี
๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ นายบุญส่ง วิทยกิตติกุล ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านดู่ อำเภอ
ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา นายมนัส สงตะคุ ตำแหน่ง อาจารย์ ๒ ระดับ ๗ รักษาการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่จนถึงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๗ ได้รับบริจาคเครื่องอัดสำเนา จากพระครูสุวรรณกิจจานุการคณะครูและชาวบ้านพุปลาไหล ราคา ๒๖,๐๐๐ บาท
๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ นายภาคภูมิ ปานทิพย์ ได้เดินทางมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ จนถึง
-
พฤศจิกายน๒๕๕๐
-
พฤศจิกายน ๒๕๕๐ นายสกุลไทย บุญญานุสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน
๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ จัดปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ ห้องอินเตอร์เนตโรงเรียนโดยได้รับการอนุเคราะห์ติดตั้งจากนายลือชา รูปพรมราช ศิษย์เก่าโรงเรียนและเงินบริจาคจำนวน ๔๐,๐๐๐บาท ทำให้นักเรียนสามารถใช้ระบบ
อินเตอร์เนตผ่านดาวเทียมในการเรียนการสอนและรับส่งงานราชการได้และได้รับงบประมาณติดตั้งดาวเทียมเพื่อเรียนรู้จากโรงเรียนไกลกังวล มูลค่าประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท
๓๐ กันยายน ๒๕๕๑ นายสกุลไทย บุญญานุสิทธิ์เกษียณอายุราชการ
๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๑ นายช่วย รมยาคม ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน จนถึง ปัจจุบัน
๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๒ นายช่วย รมยาคม คณะ ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและชาวบ้านได้ยกระดับพื้นอาคารเรียนแบบ ป ๑ ฉ ให้เป็นอาคารเรียน ๒ ชั้นใช้เงินบำรุงการศึกษาโดยการบริจาคเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
ปรับปรุงข้อมูลเมื่อ 2021-11-12 07:54:02 น.