ประวัติโรงเรียนโดยย่อ

     โรงเรียนบ้านหนองกก(ทรงรวมมิตร)  สร้างเมื่อวันที่ ๑๕  ธันวาคม พ.ศ.  ๒๕๒๒  โดยนายชูเกียรติ ทรงบรรพต ผู้ใหญ่บ้านหนองกกในขณะนั้นได้บริจาคที่ดินส่วนตัว เนื้อที่   ๘   ไร่

 ๖๔ ตารางวาให้และเป็นผู้นำชาวบ้านคนสำคัญในการก่อสร้างโรงเรียนในระยะเริ่มแรก  โรงเรียนตั้งอยู่ที่บ้านหนองกก  หมู่ที่   ๙  ตำบลสะเดา อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์  ห่างจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต ๓ ไปทางทิศใต้ตามถนนสายนางรอง–ปะคำ ระยะทางประมาณ ๗ กิโลเมตร ระยะเริ่มแรกในการก่อสร้างโรงเรียนนั้น ผู้ปกครองนักเรียน  ชาวบ้านได้บริจาควัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สร้างเป็นอาคารเรียนชั่วคราว  ๕ ห้องเรียน เป็นอาคารไม้  มุงสังกะสี  ไม่มีฝา  พื้นถมดิน จำนวน ๑ หลัง  ใช้เป็นสถานที่เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๔ มีนักเรียน ๕๗ คน แยกนักเรียนมาจากโรงเรียนบ้านสะเดา (สามัคคีวิทยา)

     วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ นายธีระ สว่างพล หัวหน้าหมวดการศึกษาอำเภอนางรอง  มาเป็นประธานในการเปิดโรงเรียน  มีนายประพนธ์ เรืองไพศาล  อาจารย์ ๑ ระดับ ๔ โรงเรียนบ้านหนองไทร (ปัญจคามคุรุสรรค์) ย้ายมาเป็นครูใหญ่  น.ส.นกแก้ว  กลิ่นสุคนธ์ ครูโรงเรียนบ้านสะเดา (สามัคคีวิทยา) เป็นครูน้อย

              วันที่ ๑๔  ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๔  ได้รับอนุมัติงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ป. ๑ ฉ. ๑ หลัง ๓ ห้องเรียน สำเร็จเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๔ ปีการศึกษา ๒๕๒๕ โรงเรียนเปิดทำการสอนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ปีการศึกษา ๒๕๒๖ เปิดทำการสอนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามลำดับ

              วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๖ ได้งบประมาณจาก น.พ.ค. ๔๓ เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท

ให้จัดซื้อวัสดุในการต่อเติมอาคารเรียนชั่วคราวให้มั่นคงถาวรขึ้น โดยการลาดพื้นซีเมนต์ ตีฝากั้นห้อง ขอแรงงานจากชาวบ้านและนักการภารโรงโรงเรียนต่างๆมาช่วยเป็นเวลา ๕ วัน  ในปีการศึกษา ๒๕๒๖ นักเรียนมีจำนวนน้อย ทางโรงเรียนจึงต้องเข้าโครงการรับนักเรียนเข้าเรียน  ๒ กลุ่มอายุ กล่าวคือรับปีเว้นปี ต่อมาพบว่ามีปัญหามาก เช่น เด็กนักเรียนจากโรงเรียนอื่นย้ายมาเข้าเรียนในชั้นที่ไม่ได้เปิดสอนใน

ปีการศึกษานั้นก็ไม่สามารถรับเข้าเรียนได้ และรับเด็กเข้าเรียนตามปกติในปีการศึกษา ๒๕๒๙

                วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ นายสายยนต์ เมี้ยนมิตร ได้นำนายกิจจา ลิ่วเฉลิมวงศ์ คหบดีจากกรุงเทพมหานคร มาสร้างพระพุทธรูปประจำสถานศึกษา  ขนาดหน้าตักกว้าง ๑๕ นิ้ว ๑ องค์

              ปีการศึกษา  ๒๕๓๐ ได้รับงบประมาณจากทางราชการให้ต่อเติมอาคารเรียน แบบ ป.๑ ฉ. ชั้นล่าง ๓ ห้องเรียนและก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ แบบสปช. ๒๐๒/๒๖ จำนวน ๑ หลัง นายชูเกียรติ  ทรงบรรพต ได้บริจาคที่ดินเพิ่มเติมให้ทางด้านตะวันตกอีกเพื่อให้สามารถก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ได้  รวมเป็นเนื้อที่ทั้งสิ้น ๘ ไร่ ๒ งาน ๖๔  ตารางวา

              วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑นายสุธรรม บุญกาพิมพ์ หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอนางรองและคณะครูผู้ฝึกสอนวิชาดนตรีไทยของสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอนางรอง มาร่วมพิธียกครูและตั้งวงดนตรีไทยของโรงเรียนบ้านหนองกก (ทรงรวมมิตร) มีครู อาจารย์และนักเรียนที่โรงเรียนนี้ เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย นายประพนธ์  เรืองไพศาล ครูใหญ่เป็นผู้นำวง นางแม้นเขียน อาจิณกิจและนายแสวง ภูบาล เป็นผู้ช่วยฝึกสอนให้เด็กนักเรียนหลายรุ่นสามารถเล่นและบรรเลงดนตรีไทยตามงานต่างๆเช่น งานบวชนาค ขึ้นบ้านใหม่ งานกฐิน ผ้าป่า บริการชุมชน ได้รับรางวัลและการยกย่องชมเชยตลอดมา

                  วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓  เปิดสอนชั้นเด็กเล็ก จำนวน ๑ ห้องเรียน ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นชั้นอนุบาล ๑ชั้นอนุบาล ๒ และชั้นอนุบาล ๓ ขวบ

                  ปีการศึกษา ๒๕๓๔ มร.จอห์น เฮลเลอร์ อาสาสมัครชาวอเมริกันจากศูนย์พัฒนาประชากรและชุมชน(ซีเบิร์ดนางรอง) มาพำนักอยู่ในหมู่บ้านหนองกก ได้มาช่วยสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนและมาร่วมพัฒนาโรงเรียนและหมู่บ้านหลายด้าน เช่น ของบประมาณจากสถานทูตประเทศเนเธอแลนด์มาขุดบ่อเลี้ยงปลาในโรงเรียน ร่วมกับทางโรงเรียนรณรงค์สร้างส้วม ๑๐๐ % ในหมู่บ้านจนสำเร็จ นำชาวบ้านไปศึกษาดูงานการปลูกผักที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น  แล้วกลับมาทำสวนผักโครงการบาดาลลอยฟ้า บ้านหนองกก  ตามแนวคิดผสมผสานของบริษัท

บริสตอล ไมเยอร์ สควิบบ์ (ประเทศไทย) นายมีชัย วีระไวทยะ  และชาวบ้าน พัฒนามาจนกระทั่งชาวบ้านรวมกลุ่มกันทำสวนผักมีรายได้ มีงานทำตลอดปีมาจนกระทั่งปัจจุบัน

              ปีการศึกษา ๒๕๓๖ นายสุธรรม วัชพืช ชาวบ้านหนองกก ได้ชักนำ นายประภากร วทานยกุล คหบดีจากกรุงเทพมหานคร ให้บริจาคเงินจำนวน ๔๐,๐๐๐  บาทก่อสร้างอาคารภากรกิจ และบริจาคเงินซื้อรถจักรยานให้เด็กยืมขี่มาโรงเรียน จำนวน ๑๐ คัน เป็นเงิน ๑๓,๐๐๐ บาท และต่อมานายประกิจ พลเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างอาคารภากรกิจซึ่งสร้างยังไม่เสร็จให้สำเร็จลง

              ปีงบประมาณ ๒๕๔๐ได้งบประมาณจากทางราชการ ๘๘,๔๘๐ บาทและจากชุมชนบริจาคสมทบด้วยจำนวนหนึ่งทำโรงเรียนให้เป็นปัจจุบัน ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โดยการทาสีอาคารเรียน ปรับปรุงภูมิทัศน์ของโรงเรียนทั่วไปให้ น่าดู น่าอยู่ น่าเรียน

                  วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒ จัดงานทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาหาเงินซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ มอบให้โรงเรียนจำนวน ๒ เครื่อง มูลค่า ๖๕,๐๐๐  บาท

              ปีการศึกษา ๒๕๔๓ โรงเรียนจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ โดยเน้นเด็กเป็นสำคัญ จัดหาแนวทางพัฒนาที่หลากหลาย ทั้งด้านการบริหารและการจัดการเรียนการสอน ส่งเสริมความรู้คู่คุณธรรม ให้เด็กเป็นคนเก่ง คนดีและมีความสุข เช่น การฝึกสมาธิ ปฏิบัติธรรมในโรงเรียน ปี  ๒๕๔๔ ได้รับจัดสรรงบประมาณจากทางราชการ ๓๗,๐๐๐ บาทให้ซ่อมแซมอาคารเรียนหลังแรกที่ชาวบ้านสร้างเองซึ่งชำรุดทรุดโทรมให้ใช้การได้ดีและได้ซ่อมแซมปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่ต่างๆของโรงเรียนให้สวยงามและใช้การได้ดีขึ้น เช่น ซ่อมแซมประตูเหล็ก ทาสีอาคารอเนกประสงค์ ทำป้าย ทาสีประตูโรงเรียน ทาสีเสาธงเป็นต้น

              วันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ โรงเรียนไปสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมาย

              วันที่ ๑๗  กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖  สร้างรั้วคอนกรีตด้านทิศตะวันออกและทิศใต้จากเงินผ้าป่า ๑๐๕ ช่อง

              วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้งบประมาณจากทางราชการ ๗,๗๔๐ บาทติดตั้งโทรศัพท์ในโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนต้องจ่ายให้องค์การโทรศัพท์  ๓๖,๙๑๕  บาท  ที่เหลือทางโรงเรียนจัดหาเอง และใช้งานได้เมื่อวันที่  ๑  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๔๖

              วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ จัดงานวันผ้าป่าเพื่อแม่ในวโรกาส ๗๒ พรรษา นำเงินมาตั้งกองทุนเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนเป็นเงิน  ๑๗๐,๐๐๐  บาท 

              วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘  เริ่มรื้อถอนอาคารเรียนเก่าเพื่อสร้างอาคารหลังใหม่  ตามที่  นางนันทพร   เรืองไพศาล  แจ้งความจำนงจะสร้างให้

              วันที่ ๑ สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๔๘ เริ่มก่อสร้างอาคาร “นันทพร  เรืองไพศาล” มูลค่า  ๖๓๗,๐๐๐ บาทโดยใช้เงินกองทุนจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท นางนันทพร เรืองไพศาล บริจาค ๕๘๗,๐๐๐ บาท เปิดใช้อาคารเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายสุนทร  เตมียะเสน นายอำเภอนางรอง มาเป็นประธาน นายศักดา  จันทร์ฝอย  รอง ผอ.สพท.บร.๓  มาร่วมงาน

              วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ โรงเรียนจ้างนางสุนีรัตน์  ศรประสิทธิ์ เป็นลูกจ้าง

ชั่วคราว  ทำหน้าที่ดูแลเด็กอนุบาล นางสาวประคอง  ทรงบรรพต  ทำหน้าที่ดูแลความสะอาด

และความปลอดภัย โดยใช้เงินอุดหนุนอื่นและเงินบริจาค

              วันที่  ๙  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๔๙  นายชูเกียรติ  ทรงบรรพต ได้มอบที่ดินด้านทิศตะวันตกให้โรงเรียนอีกจนถึงถนนเขตสาธารณะ ถวายเป็นพระราชกุศลทรงครองสิริราชสมบัติครบ  ๖๐ ปี  นายประพนธ์  เรืองไพศาล  มอบเครื่องกรองน้ำให้โรงเรียนมูลค่า  ๑๒,๕๐๐  บาท

              วันที่  ๑๑  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๔๙ พระอาจารย์ประดิษฐ์  ปัญญธโร วัดหนองยาง ได้มอบพระพุทธรูปประจำสถานศึกษาเป็นปางลีลา ๑  องค์ มูลค่า ๓๐,๕๐๐ บาท ชาวบ้านบริจาคเงินซื้อแผ่นทองสร้างฐานพระบรรจุแผ่นทอง และทำการฉลอง รวมมูลค่า ๔๒,๐๐๐ บาท

              วันที่ ๑๐ มกราคม  พ.ศ. ๒๕๕๐ นางสาวสุภัทร  จีนปรุ  เดินทางไปรับตำแหน่งใหม่

ที่โรงเรียนอนุบาลนางรอง (สังขกฤษณ์อนุสรณ์) โดยตัดโอนไป

              วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ นายร่วมมิตร์  สิงห์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกขาม  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต ๓  ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกกฯ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒  นางสาวชญาดา อึ้งวานิช ย้ายสับเปลี่ยนกับ นายพีรพล  แผ้วพลสง  ครูชำนาญการพิเศษ  โรงเรียนอนุบาลนางรอง (สังขกฤษณ์อนุสรณ์)

              วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓  โรงเรียนได้ทำสัญญาจ้างครูอัตราจ้าง(ตามโครงการคืนครูให้โรงเรียน)  คือนางสาวสุรางค์   เสาวกูล และนักการภารโรง คือ นายดวงทิพ  กลิ่นสุคนธ์

              วันที่ ๑ มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๕๓  จ้างนางสาวประคอง ทรงบรรพต เป็นครูพี่เลี้ยงเด็ก

     วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓  ทำสัญญาจ้างนายบุญนำ  อภัยจิตร์  นักการภารโรงแทนนายดวงทิพ  กลิ่นสุคนธ์ซึ่งลาออก

     วันที่  ๑๐  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๕๔  นายแสวง  วรหสังค์  ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนวัดน้ำไหล  และนางอำไพ  ศรีโพธิ์กลาง  ครูชำนาญการพิเศษ  ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูผู้สอน  โรงเรียนบ้านหนองกก (ทรงรวมมิตร)

              จะเห็นว่าโรงเรียนพัฒนาก้าวหน้ามาโดยลำดับ ทั้งด้านการจัดการ ด้านประสิทธิภาพและด้านคุณภาพ ทั้งนี้โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่มีหน้าที่และเกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดประสานและตอบสนองปรัชญานโยบาย เป้าหมาย คำขวัญ คติธรรม คติพจน์และเพลงประจำโรงเรียน คือ  ตรงเวลา รู้หน้าที่  มีวินัย วัตถุประสงค์เฉพาะของโรงเรียนคือ จัดการศึกษาให้เด็กในวัยเรียนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ  สติปัญญา  มีคุณธรรม จริยธรรม