• ประวัติ โรงเรียนท่าศาลาราษฎร์วิทยา
  • . ข้อมูลทั่วไป

    โรงเรียนท่าศาลาราษฎร์วิทยา ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านแป้น อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต ๑ โทรศัพท์ ๐๔๒-๗๐๑๗๐๖เปิดสอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เนื้อที่ โรงเรียนมีพื้นที่ทั้งสิ้น ๔๓-๓-๖๔ ไร่ โดยแบ่งออกเป็น ๒ แปลง

    แปลงที่ ๑ หมายเลขทะเบียน ๑๐๕๐ เป็นที่ตั้งอาคารเรียนทั้งสิ้น ๒๘-๒-๓๘ ไร่

    แปลงที่ ๒ หมายเลขทะเบียน ๑๐๕๑ เป็นที่ดินใช้ประโยชน์ทางกิจกรรมเกษตรและปลูกป่า มีพื้นที่ทั้งสิ้น ๑๕-๑-๒๖ ไร่

    เขตพื้นที่บริการ ประกอบด้วย ๓ หมู่บ้าน ดังนี้

              หมู่ที่ ๑ บ้านท่าศาลา นับถือศาสนาพุทธ

              หมู่ที่ ๗ บ้านจอมแจ้ง นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาพุทธ

              หมู่ที่ ๘ บ้านบึงประชาราษฎร์ นับถือศาสนาพุทธ

    ประวัติโรงเรียนโดยย่อ

    โรงเรียนท่าศาลาราษฎร์วิทยาตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๔   สถานที่หมู่ที่ ๓ บ้านจอมแจ้ง  ตำบลนาแก้ว  อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร  โดยอาศัยโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์เป็นสถานที่เรียน  ต่อมาประเทศไทยเกิดกรณีพิพาทอินโดจีนกับฝรั่งเศส  บาทหลวงที่ทำการสอนเป็นชาวฝรั่งเศสจึงถูกรัฐบาลไทยส่งตัวกลับประเทศ  โรงเรียนสอนศาสนาคริสต์จึงว่างลง  ดังนั้น  นายอำเภอเมืองจึงตั้งโรงเรียนประชาบาลขึ้นแทน โดยให้ชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลตำบลนาแก้ว (วัดจอมแจ้ง)”  นายนิพัฒน์  พรหมสาขา  ณ สกลนคร  เป็นครูใหญ่คนแรก  ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ กรณีพิพาทระหว่างไทย – ฝรั่งเศสสิ้นสุดลง บาทหลวงสอนศาสนาคริสต์ได้กลับมาทำการสอนอีกครั้งหนึ่ง  และดำเนินการขอสถานที่ที่ทำการสอนก่อนเกิดกรณีพิพาทคืนจึงทำให้นักเรียนโรงเรียนประชาบาลตำบลนาแก้วไม่มีสถานที่ที่จะเรียน  ดังนั้นทางราชการจึงมีคำสั่งให้นักเรียนย้ายไปใช้สถานที่ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านน้ำพุ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๘ และให้ชื่อว่า 

    “ โรงเรียนประชาบาลนาแก้ว ๗ (วัดบ้านน้ำพุ)”

          ปี พ.ศ.๒๔๘๙ ราษฎรหมู่บ้านท่าศาลาได้พร้อมใจกันสร้างโรงเรียนเป็นเอกเทศชั่วคราวที่วัดท่าศาลา   หมู่ที่ ๗ ตำบลนาแก้ว   ซึ่งทำการก่อสร้างได้แล้วเสร็จลงเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน  ๒๔๘๙ มีชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลตำบลนาแก้ว ๗ (วัดท่าศาลา) “ใช้เป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนเรื่อยมาจนกระทั่งครูใหญ่เห็นว่า โรงเรียนมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมากจนไม่สามารถที่จะทำการซ่อมแซมให้ใช้การได้ดีดังเดิมได้ จึงได้ประชุมราษฎรเพื่อหาทางแก้ไขและที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยที่จะทำการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่จึงมีการลงมือก่อสร้างอาคารใหม่จึงทำการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ จึงทำการก่อสร้างโดยไม่ได้ใช้งบประมาณของราชการแต่อย่างใด  ซึ่งโรงเรียนที่ทำการสร้างขึ้นขนาดกว้าง  ๙ เมตร ยาว ๒๑  เมตร และเปิดทำการสอนเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม  พ. ศ.  ๒๔๙๗

              สภาพภูมิประเทศ โรงเรียนที่สร้างขึ้นใหม่นี้ตั้งอยู่ริมหนองหาร  ซึ่งทางโรงเรียนและทางอำเภอเพิ่งทราบว่า  ที่ดินของโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของกรมประมง  เมื่อขอมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว  ซึ่งทางจังหวัดได้เสนอเรื่องต่อไปยังกรมประมง  แต่กรมประมงได้ตอบรับมาว่า  ไม่สามารถที่จะยกที่ดินในเขตหนองหารให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่การศึกษาประชาบาลได้  แต่ทางโรงเรียนได้ปลูกสร้างอาคารเรียนอยู่ก่อนแล้ว  จึงอนุมัติให้ยืมที่ดินรายนี้ให้ใช้ในกิจการของทางราชการได้  จนกว่ากรมสามัญ (ที่สังกัดอยู่ขณะนั้น) จะหาที่ดินแห่งใหม่ได้และห้ามมิให้ปลูกสร้างอาคารถาวรหรือถาวรวัตถุเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงทำการจับจองที่ดินแปลงใหม่ได้  ซึ่งมีอาณาเขตอยู่ทางทิศตะวันออกของบริเวณโรงเรียนเดิม

                    ปี พ.ศ.  ๒๕๑๘ ทางราชการเห็นว่าอาคารเรียนหลังเก่าชำรุดทรุดโทรมมากเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นแก่ครู-นักเรียนได้  จึงมีคำสั่งอนุมัติเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐  บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) ให้ทำการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่แทนหลังเก่า ซึ่งการก่อสร้างได้แล้วเสร็จเมื่อวันที่  ๓  กันยายน  พ .ศ. ๒๕๑๘

              ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ครูใหญ่เห็นว่าอาคารเรียนหลังเก่า บ้านพักครู ตลอดจนโรงอาหารที่สภาพชำรุดทรุดโทรม  อีกทั้งโรงเรียนยังคงตั้งอยู่บริเวณที่ดินของกรมประมง  จึงได้ปรึกษาคณะครู , กรรมการศึกษา , ชาวบ้านเพื่อขออนุญาตทำการรื้อถอนไปทำการปลูกสร้างใหม่  และได้รับอนุญาตจากทางอำเภอ จังหวัด ดังนั้นราษฎรทั้ง ๔ หมู่บ้าน  ซึ่งได้แก่  หมู่บ้านท่าศาลา  จอมแจ้ง  บึงประชาราษฎร์  และหนองเอี่ยน  จึงได้ร่วมแรงกันทำการรื้อถอนอาคารเรียนและสิ่งปลูกสร้างในที่ดินเดิมไปปลูกสร้างในที่ดินแปลงใหม่ที่ทำการจับจองไว้แล้วนั้น  ซึ่งการก่อสร้างได้เรียบร้อย  เปิดทำการสอนได้ในเดือนมิถุนายน  ๒๕๑๙

              ปี  พ.ศ. ๒๕๒๑ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร (ซึ่งสังกัดอยู่ในขณะนั้น)ได้รับจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มแก่โรงเรียนอีก  ๑  หลัง ในวงเงินงบประมาณ ๒๒๕,๐๐๐  บาท (สองแสนสองหมื่นห้าพันบาท) ซึ่งการก่อสร้างอาคารได้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๒๑  และได้ใช้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนแก่บุตรหลานของชาวบ้านในเขตบริการการศึกษามาจนถึงปัจจุบัน

              ปีงบประมาณ  ๒๕๓๓ ได้รับงบประมาณ ๔๗,๕๐๐ บาท (สี่หมื่นเจ็ดพันห้าร้อยบาท) ต่อไฟฟ้าเข้าโรงเรียน งานได้แล้วเสร็จสิ้น เมื่อวันที่ ๓๐  พฤษภาคม  ๒๕๓๓

              ปีงบประมาณ ๒๕๓๔ ได้รับงบประมาณติดตั้งประปาภายในโรงเรียน ๑๕,๕๐๐ บาท งานติดตั้งเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่  ๒๕ มีนาคม  ๒๕๓๔

              ปีงบประมาณ ๒๕๓๔ ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ สปช. ๑๐๕/๒๙ ขนาด ๒ ชั้น ๔ ห้องเรียน  งบประมาณ  ๑,๓๘๐,๐๐๐  บาท  (หนึ่งล้านสามแสนแปดหมื่นบาทถ้วน) การก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่  ๓๐ กรกฎาคม  ๒๕๓๔

                    ปีงบประมาณ  ๒๕๓๔  ได้รับงบประมาณก่อสร้างถังเก็บน้ำซีเมนต์  พร้อมรางรับน้ำฝนตามแบบ  ฝ.๓๐ พิเศษ จำนวน  ๑ ชุด งบประมาณ ๖๔,๗๕๐  บาท (หกหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยห้าสิบบาท) การก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่  ๒๓  สิงหาคม  ๒๕๓๔

                    ปีการศึกษา  ๒๕๓๖  ทางโรงเรียนได้เปิดขยายโอกาสทางการศึกษา  เป็นปีแรก  เปิดระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑ มีนักเรียนทั้งหมด ๔๒  คน  เป็นชาย  ๒๔  คน หญิง ๑๘ คน และเข้าร่วมโครงการ  กศ.พช.

              ปีการศึกษา  ๒๕๓๗ โรงเรียนได้เปิดชั้นอนุบาล ๑ เป็นปีแรก

              ปีการศึกษา  ๒๕๔๐  โรงเรียนเข้าร่วมโครงการโรงเรียนปฏิรูปทางการศึกษา  โรงเรียนได้รับการจัดสรรปฏิรูปทางการศึกษา  ๒  ห้อง  คือ  ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์  และห้องปฏิบัติการทางภาษา และโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการสิ่งแวดล้อม เป็นโรงเรียนนำร่องในปีการศึกษา  ๒๕๔๐

              ปีการศึกษา  ๒๕๔๑ ได้รับครูอัตราจ้างเพื่อแก้ไขการขาดแคลนข้าราชการครู จำนวน ๒ตำแหน่ง วุฒิปริญญาตรีเอกวิทยาศาสตร์   ขั้น ๖,๓๖๐ บาท

              ปีการศึกษา  ๒๕๔๒ มีนโยบายร่วมมือกับกรรมการโรงเรียนจัดสร้างโรงอาหาร เพื่อให้มีการรับประทานอาหารในโรงเรียน 

    ปีการศึกษา ๒๕๔๒ ได้รับครูอัตราจ้างเพื่อแก้ไขการขาดแคลนข้าราชการครู จำนวน ๑ ตำแหน่ง วุฒิปริญญาตรีเอกคณิตศาสตร์ ขั้น ๖,๓๖๐ บาท

              ปีการศึกษา ๒๕๔๓ จัดโครงการปลูกป่าภูมิรักษ์ ๑๐ ไร่

    ปีการศึกษา ๒๕๔๗ ได้รับครูอัตราจ้างเพื่อแก้ไขการขาดแคลนข้าราชการครู จำนวน ๑ตำแหน่ง วุฒิปริญญาตรีเอกภาษาไทย ขั้น ๖,๓๖๓๐ บาท

    ปีการศึกษา ๒๕๕๐  ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจนเป็นจำนวนเงิน ๑๐๑,๖๓๐ บาท

    ปีการศึกษา ๒๕๕๒ ได้รับเงินสนับสนุนอาหารกลางวันจากมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจนเป็นจำนวนเงิน ๓๕,๒๐๐ บาท


    ปรับปรุงข้อมูลเมื่อ 2021-12-17 14:47:01 น.

โรงเรียนท่าศาลาราษฎร์วิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 โทรศัพท์: 042-701710 อีเมล์: tasalareb@yahoo.com
เว็บมาสเตอร์:: Ⓒ ระบบเว็บไซต์สถานศึกษา  WEB School CMS V.2 [ติดต่อทีมพัฒนา]